CED2
  • Home
  • EVENTS
  • CED-Square on The Press
  • PROJECTS
    • Medical Innovations
    • Automotive Innovations
    • Agricultural Innivations
  • publications and patents
    • Conference
    • Journal Publications
    • Patents
  • ABOUT
  • Contact
  • Home
  • EVENTS
  • CED-Square on The Press
  • PROJECTS
    • Medical Innovations
    • Automotive Innovations
    • Agricultural Innivations
  • publications and patents
    • Conference
    • Journal Publications
    • Patents
  • ABOUT
  • Contact

SIT-TO-STAND TRAINER นวัตกรรมช่วยสูงวัยลุกนั่งได้ด้วยตัวเอง

9/10/2024

0 Comments

 
Picture
KEY POINTS
  • ผู้สูงอายุไทยป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สถิติพบว่ามีถึงประมาณ 2.5 แสนคนต่อปี และในจำนวนนี้มีถึง 70% ที่ยังมีความพิการหลงเหลือหลังจากรักษาหาย หากไม่ได้รับการฟื้นฟูดูแลอย่างถูกต้อง
  • SIT-TO-STAND TRAINER เครื่องออกกำลังกายและกายภาพบำบัด สำหรับการฝึกลุกยืนเพื่อผู้สูงอายุ ช่วยพัฒนาความแรงความคล่องแคล่วว่องไว และลดโอกาสการหกล้มลงได้
  • Arm Booster สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกที่อาจจะเหลือแขนข้างที่ดีอีกข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างอาจจะใช้งานไม่ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้กายภาพบำบัด ฟื้นฟูให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้วยสถานการณ์ผู้สูงอายุทั่วประเทศไทย มีประมาณ 12.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 1.2 ล้านคน หรือกว่า 10% อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ส่งผลให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือกทม.มีความจำเป็นต้องการงานวิจัยหรือนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งด้านการใช้ชีวิต และสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะเรื่องของการพลัดตกหกล้ม  

จากรายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย พบว่า 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุหกล้มทุกปี หรือปีละกว่า 3 ล้านราย หรือ 20%ของผู้หกล้มเกิดการได้รับบาดเจ็บ โดยปี 2565 มีรายงานผู้ป่วยใน (IPD) จากสาเหตุพลัดตกหกล้ม จำนวนสูงถึงเกือบเก้าหมื่นราย ผู้สูงอายุกว่าหมื่นรายบาดเจ็บบริเวณต้นขา ข้อสะโพก และ 20%ของผู้ที่สะโพกหัก มีโอกาสเสียชีวิตภายใน 1 ปี การพลัดตกหกล้มเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสอง รองจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน (ในกลุ่มของการบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ)
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการลื่น สะดุด  ก้าวพลาด ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ ทุพพลภาพและเสียชีวิตกระทบต่อเศรษฐกิจของครอบครัว คนรอบข้าง และผู้ดูแล

“มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนางานวิจัย และวิชาการเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น และในวาระโอกาสของการเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน ธรรมศาสตร์จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัด “มหกรรมงานวิจัย 90 ปี นวัตกรรมธรรมศาสตร์เพื่อประชาชน” ขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bacc) ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2567 เวลา 10.00-16.00 น.

https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1144128​
ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าการจัดแสดงนวัตกรรมที่เกี่ยวกับสังคมสูงวัยดังกล่าว ซึ่งถือเป็นโจทย์ท้าทายของประเทศไทย เพราะขณะนี้ไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) ที่จะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ต่อไปภายใน 10-15 ปีข้างหน้า การจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ จำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลประชากรสูงอายุ

“ผู้สูงอายุในประเทศไทย ส่วนหนึ่งจะมีภาวะพึ่งพิงและกลุ่มนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประชากรวัยทำงานลดน้อยลง  รวมถึงอัตราการเกิดที่น้อยลงด้วย เท่ากับว่าภาระของประเทศทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ หรือสุขภาพจะมีมากขึ้น ฉะนั้น โจทย์ใหญ่ที่สำคัญของไทยจึงเป็นเรื่องของการทำให้ผู้สูงวัยในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่กลายเป็นผู้ป่วยหรือผู้ติดเตียง สามารถช่วยเหลือดูแลตัวเองได้ยาวนาน และนวัตกรรมที่ มธ. นำมาจัดแสดง และมอบให้กับ กทม. เพื่อตอบโจทย์ และเป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง”ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าว

สูงวัยป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 2.5 แสนคนต่อปีผศ.ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้พัฒนาอุปกรณ์ออกกำลังกายและฟื้นฟูสำหรับการฝึกลุกยืนสำหรับผู้สูงอายุ: SIT-TO-STAND TRAINER กล่าวว่า ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงมีผู้สูงอายุจำนวนมากในประเทศมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน  โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาในการลุกนั่ง ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อของผู้สูงอายุมีความเสื่อมถอยลง
ขณะเดียวกันผู้สูงอายุไทยป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สถิติพบว่ามีถึงประมาณ 2.5 แสนคนต่อปี และในจำนวนนี้มีถึง 70% ที่ยังมีความพิการหลงเหลือหลังจากรักษาหาย หากไม่ได้รับการฟื้นฟูดูแลอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอได้สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล เพราะไม่เฉพาะค่าใช้จ่ายจากการรักษาเท่านั้น แต่ยังเป็นในเชิงสังคมภาพรวมที่ต้องสูญเสียกำลังแรงงานไปกับการดูแลผู้ป่วยด้วย
“SIT-TO-STAND TRAINER  เป็นนวัตกรรมเครื่องออกกำลังกายและกายภาพบำบัด สำหรับการฝึกลุกยืนเพื่อผู้สูงอายุ โดยได้พัฒนาร่วมกับรศ.ดร.สายรัก สอาดไพร อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย คณะสหเวชศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นเครื่องสามารถพยุงน้ำหนักตั้งแต่ 20-50 กิโลกรัม ที่สามารถปรับแรงช่วยของเครื่องได้ 9 ระดับ และมีระบบเซฟตี้ในการฝึกลุกยืน คือ เครื่องออกกำลังกายและกายภาพบำบัด สำหรับการฝึกลุกยืนเพื่อผู้สูงอายุมีเข็มขัดนิรภัยในการป้องกันผู้สูงอายุล้มลง เครื่องนี้ใช้งานง่ายแค่เพียงเสียบปลั๊ก ปรับแรงโดยใช้รีโมทคอนโทรล ซึ่งผู้สูงอายุสามารถทำได้ด้วยตนเองได้ ทั้งนี้ยังปรับระดับของเบาะให้เหมาะสมกับสรีระได้”

ทั้งนี้ จากประสบการณ์พบว่า สาเหตุที่ผู้สูงวัยหรือผู้ป่วยไม่สามารถเข้าถึงการฟื้นฟูดูแลกายภาพที่ดีได้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากอุปกรณ์ที่มีในประเทศนั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่วนนวัตกรรมทันสมัยที่นำเข้าจากต่างประเทศก็มีราคาสูงมาก คืออย่างต่ำ 3-4 ล้านบาท ส่วนใหญ่จึงมีอยู่ตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น เกิดเป็นภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วยตามมา จึงอยากตอกย้ำว่าแนวทางในการแก้ปัญหานั้น จำเป็นจะต้องนำนวัตกรรมฟื้นฟูดูแลกายภาพเหล่านี้กระจายลงไปถึงในระดับชุมชน หรือถ้าให้ดีคือมีการพัฒนาเป็นเวอร์ชันที่ใช้ในครัวเรือนได้ด้วย
ผศ.ดร.บรรยงค์ กล่าวต่อว่าอุปกรณ์ SIT-TO-STAND นี้ เราตั้งต้นจากโจทย์ปัญหาการพลัดตกหกล้มของผู้สูงวัย ที่เกิดขึ้นมากถึง 1 ใน 4 ของผู้สูงวัย ซึ่งปัญหาหลักมาจากความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ จึงต้องการพยายามส่งเสริมให้ผู้สูงวัยลุกนั่งได้ด้วยตัวเอง เพราะตราบใดที่ยังทำได้ ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติ โดยข้อดีของเครื่องนี้คือสามารถปรับแรงดันท้ายที่ช่วยให้ลุกยืนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องใช้แรงมาก จึงสามารถฝึกได้บ่อยถึง 50 ครั้งต่อรอบ เทียบกับฝึกด้วยเก้าอี้ธรรมดาที่ผู้สูงวัยอาจลุกยืนได้เพียง 4-5 ครั้งก็เหนื่อย
กลไกช่วยเคลื่อนที่หลายทิศทางอย่างไรก็ตาม เครื่องออกกำลังกายและกายภาพบำบัด สำหรับการฝึกลุกยืนเพื่อผู้สูงอายุ ช่วยพัฒนาความแรงความคล่องแคล่วว่องไว และลดโอกาสการหกล้มลงได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยเสริมสร้างร่างกาย เสริมกล้ามเนื้อ เสริมสร้างกระดูกและข้อ รวมถึงทำให้ผู้สูงอายุลุกยืนได้เป็นอย่างดี อย่างเป็นธรรมชาติ ถูกต้อง และปลอดภัย ผู้สูงอายุทั่วไป ควรจะฝึกลุกยืน ไม่ต่ำกว่าวันละ 60 ครั้งต่อวัน เพื่อคงสภาพของกล้ามเนื้อที่แข็งไว้
นอกจากนั้น ได้มีการพัฒนา “Arm Booster” สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกที่อาจจะเหลือแขนข้างที่ดีอีกข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างอาจจะใช้งานไม่ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้สูงอายุได้กายภาพบำบัด ฟื้นฟูให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ซึ่งปัจจุบันแม้จะมีอุปกรณ์ใช้อยู่แล้ว เพียงแต่มีความซับซ้อนและราคาสูง คือ ระบบที่ใช้ Power Assist  เครื่องได้ใช้มอเตอร์ 3-4 ตัว ในการควบคุมการเคลื่อนไหว หากมีการควบคุมแขนทั้งสองข้างอาจจะต้องใช้มอเตอร์ถึง 8 ตัว ความซับซ้อนเหล่านี้ ทำให้มันมีราคาแพง
ทีมวิจัยจึงได้แทนที่ด้วยการใช้มอเตอร์เป็นพาวเวอร์ในการขยับแขน ก็ใช้แขนข้างที่ดีที่ยังมีแรงปกติ ช่วยขยับแขนข้างที่ไม่ดี ซึ่งไอเดียนี้พบเห็นง่ายๆ ในการชักรอก ที่เขาเอาแขนข้างดี ชักรอกแขนข้างที่ไม่ดี แต่ปัญหาของแขนชักรอกนั้นอยู่ที่ว่า มันทำได้ทิศทางเดียวคือยกขึ้นกับยกลง ไม่สามารถกวาดไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้ ทีมวิจัยจึงต้องออกแบบกลไกพิเศษ เพื่อช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้หลายทิศทาง

"กลไกช่วยเคลื่อนที่หลายทิศทาง จะเป็นระบบชดเชยน้ำหนักแรงโน้มถ่วง คือ แทนที่น้ำหนักทั้งหมดนั้น คนที่ออกแรงยกจะต้องมาออกแรงยกโครงสร้าง เราก็ให้แรงสปริง เป็นตัวยกแรงโครงสร้างแทน เพราะโครงสร้างจะเบา หลักๆ แล้วเครื่องของเราจึงจะออกแรงแขนข้างดีเพื่อยกข้างไม่ดี ส่วนน้ำหนักของโครงสร้างอื่น จะถูกชดเชยด้วยการใช้ระบบสปริงเข้ามาช่วย"

เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสำหรับสูงวัยรวมถึงมีการใส่เซนเซอร์ Load Cell บริเวณมือจับทั้ง 2 ข้าง และส่งข้อมูลประมวลผลผ่านโปรแกรม เมื่อผลถูกประมวลเรียบร้อย จะแสดงผ่านหน้าจอขณะผู้ป่วยกำลังฝึก ทำให้ผู้ฝึกหรือนักกายภาพบำบัดเห็นว่า ผู้ฝึกได้ออกแรงแขนด้านที่อ่อนแอไหม โดยเทียบกับแขนข้างที่ดี เช่น ถ้าพยายามออกแรงเท่ากับแขนข้างที่ดี ไฟเขียววัดแรงอาจจะขึ้นมาเต็มหลอดเลย แต่ถ้าออกแรงน้อย ไฟเขียวจะลดลงมา
ดังนั้น Arm Booster จะสามารถเคลื่อนไหวได้ 3 ระนาบการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ได้ใน 3 ทิศทาง (3 Degree of Freedom) คือ ยืดแขน (Y-Direction), ยกแขน (Z-Direction) และกางแขน (X-Direction) และหลังจากนี้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ดีขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ม.ธรรมศาสตร์ จะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสอดคล้องและตอบโจทย์ต่อการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย

0 Comments



Leave a Reply.

    Archives

    October 2024
    September 2024
    February 2024
    January 2024
    March 2023
    February 2023
    November 2022
    March 2022
    October 2021
    September 2021
    August 2021
    July 2021
    May 2021
    March 2021
    February 2021
    January 2021
    December 2020
    September 2020
    August 2020
    July 2020
    February 2020
    January 2020
    October 2019
    September 2019
    June 2019
    December 2018
    November 2018
    October 2018
    September 2018
    August 2018
    July 2018
    May 2018
    February 2018
    January 2018
    December 2017
    November 2017
    October 2017
    September 2017
    August 2017
    June 2017
    March 2017
    January 2017
    December 2016
    November 2016
    August 2016
    July 2016
    June 2016
    May 2016
    April 2016
    March 2016
    January 2016
    December 2015
    October 2015
    September 2015
    May 2014
    May 2013
    February 2013
    January 2013
    July 2012
    May 2012
    March 2012
    October 2009
    June 2009
    December 2008
    June 2008
    December 2007

    RSS Feed

We Would Love to Have You Visit Soon!


Hours

M-F: 7am - 7pm

Telephone

+66-(0)-2564-3001 ถึง 9 ต่อ 3247

Email

[email protected]