ปัจจุบันพบว่า ผู้สูงอายุประสบกับปัญหาการเกิดโรคอัมพาตครึ่งซีก มากขึ้นจนน่าวิตก อันเนื่องมาจากการขาดการเอาใจใส่จากตัวของผู้สูงอายุเองและลูกหลานที่ไม่ค่อยมีเวลาในการมาดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดมากขึ้น โรคอัมพาตครึ่งซีก (Hemiplegic) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือด อันมีสาเหตุมาจากหลอดเลือดในสมองตีบตัน (Cerebral thrombosis) แตก (Cerebral hemorrhage) หรือพบลิ่มเลือดอุดตัน (Cerebral embolus) ส่งผลให้เนื้อสมองบางส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหยุดสั่งงาน และเกิดอาการอัมพาตของร่างกายในซีกตรงกันข้ามกล่าวคือ หากการตีบตันของหลอดเลือดเกิดขึ้นในสมองซีกซ้าย ก็จะมีอาการอัมพาตที่ซีกขวา โดยโรคดังกล่าวจะพบในกลุ่มผู้สูงอายุและวัยกลางคนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคดังกล่าว สามารถทำได้โดยบริโภคอาหารให้ถูกหลัก งดอาหารที่มีไขมันสูง ควบคุมน้ำหนัก เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หมั่นตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ ทั้งความดันโลหิตและไขมันในเลือด ฯลฯ ผศ.ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงโรคอัมพาตครึ่งซีก ให้ฟังว่า ปัจจุบัน ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกมีจำนวนสูงกว่า 500,000 คน ทั่วประเทศไทย ซึ่งล้วนต้องอาศัยการทำกายภาพบำบัดในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกาย เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติ แต่การทำกายภาพบำบัดทุกวันนี้มีค่าใช้จ่ายสูงอันเนื่องมาจากต้นทุนในการนำเข้าเทคโนโลยีกายภาพจากต่างประเทศ ประกอบกับจำนวนนักกายภาพบำบัดในปัจจุบันที่มีเพียง 2,830 คน จากสถานพยาบาลเพียง 1,471 แห่ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยโรคดังกล่าวในเชิงปริมาณ ดังนั้น คณะวิศวกรรมศาสตร์มธ. จึงได้คิดค้น “นวัตกรรมช่วยฝึกเดินสำหรับผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก” (I Walk) ขึ้น เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้กับผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกในพื้นที่ชุมชนห่างไกลได้เข้าถึงการทำกายภาพบำบัดมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีฟื้นฟูรักษาจากต่างประเทศ ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์และสหเวชศาสตร์เข้าด้วยกัน
ผศ.ดร.บรรยงค์ กล่าวต่อว่า นวัตกรรม “I Walk” เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 อุปกรณ์ คือ “อุปกรณ์ช่วยจัดท่าทางการเดินของขา” อุปกรณ์เสริมกำลังที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฝึกเดินแบบก้าวขึ้นบันได หรือวิ่งได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า พร้อมกับจัดท่วงท่าการเดินที่เหมาะสม และ “อุปกรณ์ยกตัวผู้ป่วย” อุปกรณ์พยุงน้ำหนักผู้ป่วยเพื่อป้องกันการล้มหรือเข่าทรุดระหว่างการทำกายภาพบำบัด โดยการทำงานของนวัตกรรมดังกล่าว เริ่มจากการให้ผู้ป่วยขึ้นไปยืนบนแท่นฝึกเดิน พร้อมสวมสายรัดพยุงน้ำหนักและจับราวหัดเดินให้กระชับ จากนั้นระบบจะฝึกผู้ป่วยให้ก้าวเดินอย่างช้าๆ คล้ายกับการก้าวขึ้นบันไดในลักษณะวงรี เนื่องจากผลการศึกษาวิจัยพบว่าการฝึกเดินแบบก้าวขึ้นบันไดจะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขาได้ดีกว่าฝึกการเดินในแนวระนาบ ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรฝึกเดินอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยเฉลี่ย 30 นาทีต่อวันเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อขาให้ฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น นวัตกรรมดังกล่าวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ดูแลรักษา ตลอดจนสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก โดยมีราคาต้นทุนอยู่ที่ 200,000 บาท ซึ่งถูกกว่าอุปกรณ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศถึง 10 เท่า โดยที่ผ่านมาได้นำร่องทดลองใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ในศูนย์บริการสาธารณสุขชุมชน จ.นครปฐม ที่มีอาการเรื้อรังมากกว่า 6 เดือน ขึ้นไป จำนวน 15 คน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ซึ่งผลที่ได้จากการทดลองเบื้องต้น คือ ผู้ป่วยสามารถก้าวเดินได้เร็วและนานขึ้น รวมไปถึงสามารถก้าวขึ้นบันไดได้ด้วยขาทั้งสองข้าง โดยมีไม้ค้ำยันช่วยพยุงขณะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ล่าสุด ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาและผลิตจริงจำนวน 10 เครื่อง เพื่อบริจาคแก่สถานพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขชุมชน อันเป็นการขยายโอกาสในการเข้าถึงการฟื้นฟูรักษาของผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล นวัตกรรม “I Walk” เป็นหนึ่งในผลงานของโครงการห้องปฏิบัติการออกแบบและพัฒนาต้นแบบทางวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์ (CED2) โดยความร่วมมือกันระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะสหเวชศาสตร์ภาควิชากายภาพบำบัด โดย อ.ดร.พัชรี คุณค้ำชู ซึ่งได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมประกาศนียบัตร ภายในงานประชุมวิชาการเรื่องวิศวกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ (i-CREATe 2015) ณ มหาวิทยาลัยนันยางเทคโนโลยี สาธารณรัฐสิงคโปร์
0 Comments
Leave a Reply. |
|
HoursM-F: 7am - 7pm
|
Telephone+66-(0)-2564-3001 ถึง 9 ต่อ 3247
|
|